ทำไมคุณจึงควรเริ่มทำ Bullet Journal

Zach
3 min readMar 24, 2022

Bullet Journal คืออะไร ทำอย่างไร และทำไมคุณอาจต้องการมัน

Photo by Thom Holmes on Unsplash

คุณเคยมีความรู้สึกดังต่อไปนี้หรือเปล่า:

  • ตัวเองถูกท่วมท้นไปด้วยหลาย ๆ อย่างในชีวิตที่ยังไม่ถูกจัดการ
  • แต่ละวันในชีวิตช่างผ่านไปเร็วเสียเหลือเกิน ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็หมดวันแล้ว
  • ทุกวันนี้ ใช้ชีวิตแบบที่ยังไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วตัวคุณเองต้องการอะไรกันแน่
  • มองไปในชีวิตข้างหน้าแล้วไม่เห็นภาพว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น หรือ
  • ไม่รู้ว่าจะทำสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

ถ้าหนึ่งในคำตอบนั้นคือใช่ ผมคิดว่า Bullet Journal คือทางออกของคุณแล้วละครับ

เมื่อเห็นคำว่า Journal แล้ว คุณคงนึกถึงการจดบันทึกในรูปแบบไดอารี่ สำหรับคนที่ไม่ชอบอาจจะปิดบทความนี้ไปก่อนแล้ว แต่ว่าอย่าเพิ่งนะครับ ผมสัญญาว่ามันจะไม่เหมือนที่คุณคิด

Bullet Journal คือวิธีการจดบันทึกรูปแบบหนึ่งนั่นแหละ แต่ว่ามันรวมหลาย ๆ อย่างเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ รายการสิ่งที่ต้องทำ (Todo list) ปฏิทินชีวิต (Life calendar) และบันทึกประจำวัน (Diary) และอื่น ๆ อีกมากมาย แล้วมันเป็นข้อดีอย่างไร? ผมอยากให้คุณดูแผนภาพนี้ก่อน

เพราะว่าชีวิตเรานั้นมีเวลาจำกัด การเที่ยวทำทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตจึงไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีเท่าไหร่ในการรับมือ คุณอาจจะต้องเจอกับความรู้สึกหมดพลังงาน (ฺBurn out / Exhausted) หรือเสียสมดุลในการใช้ชีวิต สิ่งสำคัญที่พวกเราควรทำคือการถามกับตัวเองว่า “ทำไมเราจึงทำสิ่งที่ทำอยู่ (Why are you doing what you are doing?)”

การที่ตอบคำถามนี้ไม่ได้ไม่ใช่เรื่องผิดนะครับ แต่ผมอยากให้คุณลองถอยออกมา มองภาพชีวิตของคุณให้กว้างขึ้น ดูว่าจริง ๆ แล้วคุณต้องการอะไรกันแน่ แล้วสิ่งที่ทำอยู่มันถูกต้อง ตอบโจทย์ชีวิตที่คุณมองแล้วหรือไม่ ซึ่งเครื่องมือที่ทำให้เราเข้าสู่กระบวนการนี้ได้ง่ายมากก็คือ Bullet Journal นี่แหละครับ ผมจะลงไปในรายละเอียดวิธีการในส่วนท้าย แต่ตอนนี้ผมอยากแบ่งปันเรื่องราวส่วนตัวที่เกิดขึ้นก่อน

ก่อนการพบกัน

ก่อนหน้านี้ ผมเป็นคนที่ชอบสร้างความมีประสิทธิผล (Productivity) ให้กับชีวิตของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องการเรียน เครื่องมือที่ผมชอบมาก ๆ มาตลอดก็คือ Notion (Software สำหรับการสร้าง workspace เป็นเครื่องมือที่ยืดหยุ่นและใช้งานได้หลากหลาย ถ้าคุณยังไม่เคยลองใช้ ผมอยากแนะนำให้คุณใช้เหมือนกัน) ผมจัดการชีวิตทุกอย่างของตัวเองลงในนั้นอย่างครอบคลุม เพราะเชื่อว่าชีวิตผมคือโปรเจกต์ขนาดใหญ่ ที่มีงานย่อย ๆ มากมายเต็มไปหมดที่ต้องทำให้เสร็จ แล้วในงานย่อยนั้น ก็มีงานย่อยลงไปอีก ซึ่ง Notion ก็ตอบโจทย์ผมมากเป็นระยะเวลาถึงสองปี

ตัวอย่างการใช้งาน Second Brain ที่ผมสร้าง สร้างความสัมพันธ์เป็น 4 ส่วน คือ Projects, Areas, Resources และ Archives

แรงเสียดทาน

แต่ผมเริ่มเห็นปัญหาหลายอย่างระหว่างทาง คือเนื่องจากมันเป็นเครื่องมือที่อยู่บนโลกออนไลน์ จึงทำให้มีแรงเสียดทานในการเข้าถึงมาก (อุปกรณ์, อินเตอร์เน็ต, สถานที่, ขั้นตอน ฯลฯ) ซึ่งตอนแรกไม่ได้ส่งผลมาก แต่เมื่อผมต้องการความเร็วในการบันทึกเรื่องต่าง ๆ มันทำให้ผมรู้สึกไม่อยากบันทึก และพลาดอะไรหลาย ๆ อย่างที่เล็กน้อยได้ง่าย บวกกับปกติเป็นคนไม่ค่อยใส่ใจรายละเอียดอยู่แล้วด้วย

แรงเสียดทานนั้นส่งผลทั้งขาเข้าขาออก

เมื่อคุณมีแผนที่ดีแล้ว การปฏิบัติจริงนั้นสำคัญมาก สำหรับผม Notion ยังคงเป็นเครื่องมือช่วยวางแผนที่ดีเสมอ แต่นี่คือจุดที่ผมมักจะตกหลุมลงไป มัวแต่วางแผนจนไม่ได้เริ่มทำสักที อาจจะเพราะคิดว่ายังไม่พร้อมหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เพราะแรงเสียดทาน ทำให้ผมไม่สามารถทำตามแผนได้อย่างที่ใจต้องการ

การถ่ายโอน

เมื่อช่วงกลางปี 2021 ผมได้รู้จักกับ Bullet Journal ครั้งแรก แต่ว่ารู้สึกว่ายังไม่ใช่เครื่องมือที่ตอบโจทย์ จึงไม่ได้ให้ความสนใจ

จนวันหนึ่งที่ผมฟัง Podcast ของ Adult หรือ Young: feat. Bullet Journal Thailand จึงทำให้กลับมาคิดทบทวนใหม่ แล้วคิดได้ว่า ควรจะลองให้โอกาสมันสักครั้ง

แล้วผมเริ่มต้นชีวิตใหม่ตั้งแต่วันที่ January 14, 2022

ในช่วงต่อไปนี้ จะเป็นการสร้างระบบของตัวเอง ถ้าคุณยังไม่อยากทำตอนนี้ก็ไม่เป็นไรครับ เมื่อในวันที่คุณพร้อม ก็ค่อยกลับมาทำก็ได้ฮะ แต่ผมอยากสนับสนุนให้คุณได้ลองดูวิดีโออยู่ดี เพราะมันแค่สี่นาทีสั้น ๆ เพื่อเราจะได้เข้าใจตรงกันด้วย

HOW

วิธีการที่ผมใช้นั้นเป็นฉบับดั้งเดิมของคุณ Ryder Carroll— ผู้คิดค้นระบบนี้เลยนะครับ สำหรับคนที่อยากเริ่มตาม สามารถ Set up ตามนี้ได้เลย

Tools

  1. สมุดโน้ตจุดหรือตาราง ขนาดพอดี ราคาไม่ควรแพงมาก เพราะคุณจะใช้หมดเร็วกว่าที่คิด
  2. ปากกาหมึกซึมจับถนัด
  3. ไม้บรรทัดขนาดเล็ก พกพาง่าย
Channel นี้มีครบทุกอย่าง

อย่างที่เห็นว่าตลอดการใช้งานจะมีการจุดเยอะมาก ดังนั้นปากกาแบบหมึกซึมจะเหมาะที่สุดครับ

ทีนี้ผมอยากจะลองเน้นจุดสำคัญบางอย่างที่ได้จากในวิดีโอ

จุดสำคัญและการเปลี่ยนแปลง

จะเห็นว่ารูปแบบการใช้งานนั้นเป็นอะไรที่เรียบง่าย มีแค่ Index เพื่อช่วยให้สามารถหาหน้าที่ต้องการได้เร็วขึ้น Future Log เพื่อเห็นอนาคตที่กำลังจะเข้ามาได้ดีขึ้น Monthly Log เพื่อช่วยให้คุณได้เห็นภาพของเดือนนี้ทั้งหมด เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วและงานที่ต้องทำ Daily Log เพื่อเก็บข้อมูลระหว่างวัน และ Custom Collection ที่คุณสร้างเองได้ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาที่เราได้คุยกันไปตั้งแต่ตอนแรกได้ทั้งหมด ผมจะพาทบทวนไปทีละอัน

ตัวเองถูกท่วมท้นไปด้วยหลาย ๆ อย่างในชีวิตที่ยังไม่ถูกจัดการ

Daily Log คือพื้นที่สำหรับการโยนความคิดครับ ทันทีที่เรารับสิ่งใหม่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นงาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือความคิดไอเดียบางอย่าง เราสามารถเขียนลงไปในวันนั้นได้ทันที ซึ่งมันใช้พลังงานน้อยมากจนแทบไม่เป็นภาระในระหว่างวันเลย ที่ต้องทำอย่างนี้ เพื่อที่คุณจะได้ขึ้นมาจากทะเลแห่งความไม่รู้ ดูว่าตอนนี้มีสิ่งที่เข้ามาเยอะแค่ไหน คุณจะสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าควรเริ่มจัดการอะไรก่อน “What’s next??” ขั้นตอนต่อไปคืออะไร

Photo by nikko macaspac on Unsplash

บางสิ่งที่ดูเหมือนรีบ อาจจะไม่ได้รีบจริง ๆ สามารถวางไว้ก่อนได้ บางสิ่งที่ดูเหมือนไม่รีบ แต่จริง ๆ รีบและก็อาจจะสำคัญมากก็จะเข้ามาอยู่ในสายตาของคุณ

ความสุขจากการได้กากบาทงานที่เสร็จแล้วออกไปนั้น ผมรับรองได้เลยว่ามันเป็นความสุขที่จะทำให้คุณอยากที่จะเริ่มทำงานอื่นต่อไปได้

ด้วยทั้งหมดนี้ มันทำให้ผมนอนหลับได้ดีขึ้น เพราะหมดความกังวลใจ ได้ปล่อยทุกอย่างให้อยู่ในนั้นแล้ว เราแค่ต้องทำตามระบบของเราเอง ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย

นอกจากนี้ สมองผมยังมีที่เหลือสำหรับการโฟกัสกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน เครียดน้อยลง มีสติมากขึ้น และบางครั้ง ก็ทำให้เกิดไอเดียอะไรดี ๆ ออกมาระหว่างวันได้ด้วย

แต่ละวันในชีวิตช่างผ่านไปเร็วเสียเหลือเกิน ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็หมดวันแล้ว

ในแต่ละวัน หากมีเหตุการณ์ไหนที่ส่งผลต่อความคิด หรือความรู้สึกคุณ ผมคิดว่ามันควรค่าต่อการที่จะจดไว้ใน Daily Log และก่อนนอน หรือวันต่อไป คุณก็สามารถเลือกหนึ่งเหตุการณ์มาใส่ไว้ใน Monthly Log ได้

ส่วนสำคัญมากสำหรับ Bullet Journal คือคุณไม่จำเป็นต้องทำมันทุกวันก็ได้ (แม้ผมจะสนับสนุนให้ทำทุกวันก็ตาม) แต่ถ้าหากคุณสามารถสร้างนิสัยใหม่ คือทำทุกวันได้ คุณจะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวันในระดับการรับรู้จริง ๆ คือเวลาจะผ่านไปช้าลง และคุณจะมองเห็นโอกาสในการทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น สร้างศักยภาพใหม่ ๆ ให้สามารถเกิดขึ้นได้ เพียงแค่อยู่กับปัจจุบันอย่างมีสติ

ทุกวันนี้ ใช้ชีวิตแบบที่ยังไม่รู้เลยว่าจริง ๆ แล้วตัวคุณเองต้องการอะไรกันแน่

ในทุก ๆ วัน คนเราจะมีความคิดผุดขึ้นมาหลายอย่าง แต่เราแค่ไม่ได้สนใจมัน แท้จริงแล้วความคิดเหล่านั้นมันคือเรื่องสำคัญ (ซึ่งแล้วแต่คนจะพิจารณาว่าอันไหนสำคัญ) เพราะมันสามารถบอกอะไรเราได้หลาย ๆ อย่าง ทั้งไอเดียใหม่ ๆ ความรู้สึกชั่วขณะ ความคิดในจิตสำนึก รวมถึงความต้องการในชีวิตด้วย อาจจะเป็นสิ่งที่อยากทำสักครั้งในชีวิตภายในช่วงเวลานี้ ความฝัน ความหลงใหล เป็นได้ทุกอย่าง การหมั่นสังเกตและบันทึกสิ่งเหล่านี้คือข้อได้เปรียบ

Photo by Elijah Hiett on Unsplash

มองไปในชีวิตข้างหน้าแล้วไม่เห็นภาพว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น

ความไม่แน่นอนคือความแน่นอนเดียวในโลกนี้ ยังไงเสียคุณก็ไม่รู้อยู่แล้วว่าอนาคตจะมีอะไรรออยู่ แต่เพราะมันคือสิ่งที่ยืดหยุ่นที่สุด และตัวแปรเดียวที่คุณมีสิทธิ์ควบคุมได้คือปัจจุบัน ดังนั้นคุณจึงควรที่จะใช้สิทธิ์นั้นอย่างเต็มที่

ด้วย Future Log และการหมั่นสังเกตสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทำให้คุณสามารถเห็นได้ว่า คุณอยากให้อนาคตของตัวคุณเองเป็นอย่างไร และออกแบบมันอย่างที่ใจต้องการ

ไม่รู้ว่าจะทำสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

และสุดท้าย คือการนำภาพเหล่านั้นสู่การกระทำในชีวิตจริง คุณสามารถสร้างการกระทำเล็ก ๆ ให้เป็นกิจวัตร และบันทึกมันลงใน Habit Tracker ของ Monthly Log ก็ยังได้ หรือสร้าง Collection ใหม่ขึ้นมาเอง เพื่อให้รองรับกับโจทย์การใช้ชีวิตของคุณ

ในที่สุดแล้ว การทำ Bullet Journal ไม่ได้มีรูปแบบตายตัว คุณ Ryder จะพูดเสมอว่า “Do what works best for you”. คือจะปรับแต่งรูปแบบอย่างไรก็ได้ ไม่ต้องสนใจมากว่าคนอื่นทำกันอย่างไร ถ้าแบบนี้เหมาะกับเรา ก็จงทำแบบนั้นต่อไป อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่ผมเลือกมาแบ่งปันในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิธีการทั้งหมดที่ผมได้ศึกษามา ซึ่งก็เพียงพอแล้วที่คุณจะสร้างระบบของตัวเองได้ แต่ถ้าหากคุณยังมีข้อสงสัยก็สามารถพูดคุยกันที่ด้านล่าง หรือมาที่เว็บไซต์ของผมได้ ยินดีที่จะพูดคุยด้วยฮะ

--

--